แบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนพลังงานจากปฏิกิริยาทางเคมี เป็นพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วย
- เปลือกหม้อที่ผลิตจากวัสดุที่บอบบาง
- แผ่นธาตุประกอบด้วยแผ่นตะกั่วบริสุทธิ์ และแผ่นตะกั่วอ๊อกไซด์ มีแผ่นฉนวนกั้นระหว่างแผ่นธาตุ
- น้ำยา หรือ Electrolite ซึ่งเป็นส่วนผสมของน้ำกรดกำมะถันกับน้ำกลั่น ให้ได้ ถพ. ตามที่ต้องการประมาณ 1,250
สรุปแล้วแบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ที่บอบบางแต่ราคาแพง หากไม่ได้รับการเอาใจใส่หรือบำรุงรักษาให้ถูกวิธี ก็จะทำให้อายุการใช้งานสั้น ไม่คุ้มค่า เนื่องจากชำรุดเสียหายได้ง่ายจากการกระทบกระแทกของแข็ง หรือใช้งานผิดวิธี
ข้อควรระวัง
1. เวลาใส่ขั้วแบตเตอรี่อย่าใช้โลหะหรือของแข็งตอกอัดขั้วลงไป เพราะจะทำให้ขั้วแบตเตอรี่ชำรุดและแผ่นธาตุภายในหลุดร่วง เกิดการชอร์ทในช่องของแบตเตอรี่ ควรใช้มือกดหมุนลงไปเท่านั้น ถ้าขั้วสายเล็กกว่าให้หใช้ไขควงถ่างรอยผ่าเสียก่อน แล้วขันน๊อตให้แน่นพอสมควร เสร็จแล้วใช้จาระบทาบาง ๆ เพื่อป้องกันซัลเฟสเกาะที่ขั้วแบตเตอรี่
2. เวลาถอดขั้วสายออกจากแบตเตอรี่ห้ามใช้ไขควงหรือของแข็งงัดออก จะทำให้ฝาแบตเตอรี่ชำรุดเสียหายได้ ต้องกระทำโดยวิธีคลายสกรูออกให้หลวมเสียก่อน แล้วใช้ไขควงกดปิดรอยแตกแยกให้ถ่างออกแล้วใช้มือหมุนออกเช่นเดียวกับข้อ 1
3. อย่าสตาร์ทเครื่องยนต์ให้นานเกินควร หรือสตาร์ทติดต่อเป็นเวลานานเกิน 10 วินาที ถ้ายังขืนสตาร์ทเครื่องยนต์ต่อไปอีก จะทำให้แผ่นธาตุแบตเตอรี่ชำรุด หรือมอเตอร์สตาร์ทไหม้ได้
4. ให้เปิดฝาตรวจดูระดับน้ำยาที่อยู่ในช่องแบตเตอรี่แต่ละช่องทุกสัปดาห์ ถ้าระดับน้ำยาลดลงให้เติมเฉพาะน้ำกลั่นเท่านั้น และควรสูงท่วมแผ่นธาตุประมาณ 1 ซม.
5. อย่าปล่อยแบตเตอรี่ไว้โดยไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานเป็นอันขาด ต้องนำมาชาร์ทไฟอย่างน้อย 15 วันต่อครั้ง ครั้งละไม่น้อยกว่า 30 นาที
6. ไม่ควรชาร์ทแบตเตอรี่ด้วยกระแสไฟที่สูงเกินไป จะทำให้แผ่นธาตุทำปฏิกิริรยากับน้ำยาอย่างรวดเร็ว เกิดความร้อนสูง ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลงกว่ากำหนด
7. หมุนฝาปิดน้ำยาให้แน่นและรูระบายอากาศต้องไม่อุดตัน เพื่อระบายแก๊สขณะแผ่นธาตุทำปฏิกิริยากับน้ำยาในแบตเตอรี่ จะเกิดความร้อนและแก๊สขยายตัว อาจทำให้แบตเตอรี่บวมหรือระเบิดได้
8. หมั่นเช็คทำความสะอาดฝาแบตเตอรี่ อย่าให้มีสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่น น้ำมัน และความชื้น เป็นต้น หรือใช้น้ำอุ่นล้างถ้ามีซัลเฟสเกาะที่ขั้วสาย
9. อย่าวางเครื่องที่เป็นโลหะบนหม้อแบตเตอรี่ จะทำให้เกิดการลัดวงจร ขั้วแบตเตอรี่จะชำรุดเสียหายได้
10. การติดตั้งแบตเตอรี่ต้องติดตั้งกับแท่นยึดที่แข็งแรงและแน่น ไม่สั่นสะเทือนมากในขณะปฏิบัติงานสะดวกต่อการบริการ ไกลจากความชื้น และอุณหภูมิไม่สูงเกินไป
11. ในการเคลื่อนย้ายแบตเตอรี่ให้ใช้วิธียก อย่าลากหรือดึง หรือปล่อยลงกระแทกพื้นแรง ๆ เพราะอาจจะทำให้เปลือกหม้อแบตเตอรี่ทะลุได้
12. แบตเตอรี่ใหม่หลังจากเติมน้ำยาแล้วจะเกิดกระแสไปขึ้นเอง ทางด้านเทคนิคห้ามไม่ให้นำไปใช้งาน เพราะจะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นหรือเสื่อมสภาพเร็วผิดปกติ จะต้องนำไปชาร์ทไฟเสียก่อนด้วยกระแสไฟอัตราไม่เกิน 2 3 แอมแปร์ ประมาณ 72 ชั่วโมง แล้วจึงนำไปใช้งานก็จะทำให้ได้แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
13. แบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานและมีประสิทธิภาพดีที่สุด แบตเตอรี่นั้นจะต้องได้รับการประจุหรือชาร์ทไฟเต็ม (Full charge) อยู่ตลอดเวลา
14. แบตเตอรี่ทั่วไปมีอายุการใช้งานระหว่าง 6 เดือน ถึง 2 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้และบำรุงรักษาที่ถูกวิธี ถ้าบำรุงรักษาไม่ถูกวิธีจะมีอายุการใช้งานต่ำกว่า 6 เดือน หรือถ้าใช้และบำรุงรักษาให้ถูกวิธีอายุการใช้งานจะได้ไม่น้อยกว่า 2 ปี จะเห็นได้ว่าการใช้และบำรุงรักษาแบตเตอรี่ให้ถูกวิธี อายุการใช้งานจะต่างกันหลายเท่าตัว